Smart Fabric
02 Jun 2020
สถาบันฯสิ่งทอเปิดตัวฉลากคุณภาพหน้ากากผ้า Smart Fabricเพื่อภาคประชาชน
เร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการสวมใส่
สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ออกฉลากคุณภาพหน้ากากผ้า Smart Fabricดึงเกณฑ์มาตรฐานสากล ประยุกต์พัฒนาหลักเกณฑ์ เน้นการดักจับฝุ่นและละอองไอจาม การซึมผ่านได้ของอากาศ ความคงทนของสี คุณภาพของสีที่ใช้ย้อมรวมทั้งผ้าที่ใช้ต้องไม่เป็นสารก่อมะเร็ง และการสะท้อนน้ำ รวม 5 เกณฑ์หลักสำคัญ รับรองและตรวจสอบโดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม
(25 มี.ค.63) ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสCovid-19 ในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบให้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ และหน้ากากอนามัยทั่วไป ที่ใช้วัสดุชนิด ผ้าไม่ทอ ไม่ถักที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Non woven) มีความต้องการใช้สูง มีราคาสูงขึ้นและขาดตลาด ส่งผลให้ประชาชนหันมาใช้หน้ากากผ้าซึ่งเป็นวัสดุทางเลือก และเกิดความต้องการอย่างทวีคูณ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ในฐานะหน่วยงานเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม มีภารกิจสนับสนุนและส่งเสริมองค์ความรู้ในด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอ ได้จัดเสวนากลุ่ม (Focus group) โดยเชิญหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมสิ่งทอ รวมทั้งสมาคม และสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมหารือทิศทางการพัฒนาเกณฑ์ข้อกำหนดประสิทธิภาพหน้ากากผ้าสำหรับภาคประชาชน เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563เพื่อเสนอคณะกรรมการบริหารเครื่องหมายคุณภาพสิ่งทอไทย โดยคณะกรรมการได้มีมติเห็นชอบในหลักเกณฑ์และอนุมัติให้ใช้เครื่องหมาย Smart Fabric หน้ากากผ้าเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 โดยต้องผ่านการทดสอบและมีประสิทธิภาพสามารถใช้งานซ้ำและผ่านการซักล้างอย่างน้อย 10 ครั้งขึ้นไป ดังนี้
1.สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก 0.5 ไมครอน ไม่น้อยกว่า 65%โดยคุณสมบัติดังกล่าวยังสามารถกัน PM 2.5 ได้ (หัวข้อทดสอบSub-micron particulate filtration efficiency at 0.5 micronโดยข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ คือ >65%)
2.การซึมผ่านได้ของอากาศ (1 – 50 ซีซี ต่อพื้นที่ตารางเซนติเมตรต่อวินาที) โดยหากอากาศยิ่งผ่านได้มากประสิทธิภาพการป้องกันฝุ่นละอองไอจามก็จะยิ่งน้อย (หัวข้อทดสอบการผ่านได้ของอากาศ โดยข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ คือ 1 < X <50)
3.ความคงทนของสีต่อการซักอยู่ระดับปานกลาง (หัวข้อการทดสอบความคงทนของสีต่อการซัก อ้างอิงมาตรฐานสากลโดยใช้เกณฑ์ลำดับที่ 1 สีตกมาก จนถึงลำดับที่ 5 คือสีไม่ตกเลย) โดยข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพคือ >3
4.คุณภาพของสีสารเคมีที่ใช้ย้อมและคุณภาพผ้าต้องปลอดภัยไม่มีสารก่อมะเร็ง (หัวข้อการทดสอบ ปริมาณสีเอโซ และการทดสอบฟอร์มัลดีไฮด์)
5.การสะท้อนน้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจอีกหนึ่งขั้นของการสวมใส่ (หัวข้อการทดสอบการสะท้อนน้ำ)